ในอดีตประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลได้ใช้ประโยชน์ของต้นจากกันอย่างกว้างขวาง โดยมีความเชื่อว่าส่วนต่าง ๆ ของต้นจากนั้นสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ผู้คนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลได้ใช้ใบจากมาทำเป็นฝาบ้าน มุงหลังคา มวนบุหรี่ ทำภาชนะต่าง ๆ เช่น หมวก ภาชนะตักน้ำ ไม้กวาด ของเล่นเด็ก ส่วนที่เป็นอาหาร ได้แก่ ผล ยอดอ่อน ลูกจาก และการปาดน้ำหวานจากต้นจากเพื่อนำมาทำเป็นน้ำตาล น้ำส้มสายชู แอลกอฮอล์ รวมถึงเครื่องดื่มต่าง ๆ จึงมีความเชื่อว่าต้นจากเป็นไม้คู่ชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเล ต่อมาสภาพสังคมและเศรษฐกิจก็ได้เปลี่ยนไป ส่งผลให้ทรัพยากรท้องถิ่นนี้ถูกแทนที่ด้วยของใหม่ ความนิยมในการนำส่วนต่าง ๆ ของต้นจากมาใช้ประโยชน์ก็อาจนิยมกันน้อยลง แต่ผลผลิตที่ยังมีความต้องการมากจนถึงปัจจุบันก็คือลูกจาก เพราะสามารถนำไปประกอบอาหาร โดยเฉพาะของหวานที่ยังคงมีความต้องการลูกจากสูงอยู่เช่นเดิม
ควรปลูกบริเวณใดของบ้าน
ลูกจากถือเป็นผลผลิตจากต้นจากที่มีความต้องการมากในท้องตลาด ทำให้เกษตรกรให้ความสำคัญกับการปลูกต้นจากมากขึ้น ซึ่งจากนั้นเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีน้ำท่วมขัง และชอบแสงแดดจ้า ดังนั้นหากจะนำต้นจากมาปลูกไว้ในบริเวณบ้านควรเลือกปลูกในบริเวณที่เป็นดินเหนียวหรือดินที่เป็นโคลนตม มีน้ำท่วมขัง และแสงแดดสามารถส่องถึง หากใครมีสวนในบริเวณหลังบ้านที่อยู่ใกล้กับแหล่งน้ำก็สามารถปลูกต้นจากไว้ในบริเวณนั้นได้เลย หากปลูกไว้ในบริเวณที่เหมาะสมก็จะทำให้เราได้ผลผลิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นใบจาก ดอกจาก และลูกจาก ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในหลายด้าน
ลักษณะของต้นจาก
ลักษณะของลำต้น ต้นจากจัดเป็นปาล์มแตกกอ โดยลำต้นของจากนั้นจะอยู่ใต้ดินหรือเป็นลำต้นที่เลื้อยไปบนดิน ต้นตั้งตรง ซึ่งก้านใบและตัวใบจะโผล่ขึ้นมาอยู่เหนือดิน ลำต้นจะแตกแขนงอยู่ใต้ดินทำให้เป็นกอ ๆ และหลายทอด โดยต้นจากนั้นมีความสูงประมาณ 3 เมตร
ใบ ใบจากเป็นใบประกอบแบบขนนก เรียงตรงข้ามกัน โดยมีใบย่อยเป็นรูปขอบขนาน ซึ่งมีความกว้างประมาณ 5-6 เซนติเมตร และมีความยาวประมาณ 90-120 เซนติเมตร แผ่นใบมีความหนา ปลายใบมีลักษณะเรียวแหลม โคนใบเป็นรูปลิ่มซึ่งมีลักษณะคล้ายกับใบมะพร้าวและเป็นรูปรางน้ำคว่ำ บริเวณผิวใบด้านบนมีสีเขียวเข้มเป็นมัน ส่วนผิวใบด้านล่างมีสีนวล ส่วนกาบใบใหญ่นั้นจะห่อโคนต้น ก้านใบที่แตกใหม่นั้นจะเป็นสีม่วงแดง บริเวณโคนใบจะมีกะเปาะอากาศเป็นตัวช่วยพยุงให้ใบชูขึ้นเหมือนชูชีพ ส่วนกาบใบนี้บางครั้งจะเรียกว่า “พอนใบ”
ดอก ดอกจากออกลักษณะเป็นช่อ มีสีเหลืองแสด เป็นรูปกลม โดยจะออกดอกเป็นช่อแบบกระจุกแน่นระหว่างกาบใบ ดอกเป็นแบบแยกเพศอยู่ในต้นเดียวกัน ช่อดอกจะชูตั้งขึ้นและโค้งลง โดยมีความยาวประมาณ 25-65 เซนติเมตร ซึ่งช่อดอกที่แทงออกมานั้นจะเรียกว่า “นกจาก” ดอกตัวเมียนั้นจะอยู่บริเวณปลาย ส่วนดอกตัวผู้จะอยู่บริเวณโคนช่อดอก ซึ่งดอกจากจะออกดอกได้ตลอดทั้งปี
ผล ผลจากมีเปลือกที่แข็ง โดยกระจุกเป็นทะลายหลายผลมีเปลือกสีน้ำตาล ซึ่งเรียกว่า “โหม่งจาก” ผลอยู่รวมกันเป็นช่อ ลักษณะของผลเป็นรูปทรงไข่กลับคล้ายผลระกำแต่ไม่มีหนาม แบนและนูนตรงกลาง มีความกว้างประมาณ 3-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 6.5-7.5 เซนติเมตร ผลมีสันแหลมหรือมีร่องผลประมาณ 9-10 ร่อง ข้างในจะมีเนื้อเมล็ดสีขาวโดยมีปริมาณเนื้อไม่มากนัก และเนื้อในเมล็ดนั่นเองที่เราเรียกว่า “ลูกจาก” สามารถรับประทานได้ รสชาติจะคล้ายกับลูกตาลสด คนไทยมักจะนำลูกจากไปประกอบเป็นอาหารคาวและอาหารหวานอย่างหลากหลาย เมื่อผลสุกเต็มที่แล้วจะแยกจากกลุ่ม ลอยน้ำ ซึ่งสามารถแพร่พันธุ์ไปได้ไกล ๆ บางครั้งอาจแตกหน่อในขณะที่ยังลอยน้ำ
เมล็ด ภายในผลมีเมล็ดลักษณะเป็นรูปไข่ มีสีขาว ซึ่งเราเรียกมันว่า “ลูกจาก” นั่นเอง
อ้างอิง https://kaset.today/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81/